สำหรับเจ้าของทุกคนที่ ได้ลูกสุนัขมาใหม่ คงจะมีโอกาสที่จะเจอกับปัญหาท้องเสียกันบ้างไม่มากก็น้อยล่ะครับ โดยที่อาการท้องเสียในลูกสุนัขมีตั้งแต่ เฉียบพลันไม่รุนแรงมาก ไปจนถึงท้องเสียเรื้อรังที่รุนแรงถึงกับชีวิตของน้องเค้าได้ ดังนั้นหมอจะขอแนะนำสาเหตุของอาการท้องเสียที่พบได้ในลูกสุนัข รวมถึงวิธีการจัดการเบื้องต้นให้เจ้าของสามารถนำไปใช้ได้ครับ
อาการท้องเสียทั่วไปในลูกสุนัขที่พบบ่อย
ในลูกสุนัขจะมีสาเหตุของอาการท้องเสียเฉียบพลันที่พบได้บ่อยๆ และอาจจะหายไปได้เองภายในเวลาไม่กี่ วัน แต่สำคัญที่ เจ้าของควรที่จะรู้สาเหตุ เพื่อป้องกันหรือเฝ้าระวังอาการน้องได้อย่างถูกต้องนะครับ
- อาหาร เป็นสาเหตุท้องเสียที่พบได้บ่อยมากๆ เช่น การให้อาหารแก่น้องมากเกินไปอาจเป็นเหตุของ อาหารไม่ย่อย หรือ การเปลี่ยนชนิด ยี่ห้อ หรือประเภทอาหารปุบปับเกินไป เป็นต้น ดังนั้น การเปลี่ยน หรือปรับเพิ่มปริมาณอาหารจึงต้องค่อยเป็นค่อยไป โดยมีหลักง่ายๆว่าควร ให้ เวลาน้องหมาปรับตัวกับอาหารชนิดใหม่ประมาณอย่างน้อย 1 สัปดาห์ อาจเริ่มวันแรกให้ อาหาร ใหม่ซัก หนึ่งส่วนกับอาหาร เก่าเก้าส่วนแล้วค่อยๆเพิ่มสัดส่วนอาหารชนิดใหม่ขึ้นจนเป็นอาหารใหม่ทั้งหมด เช่นเดียวกับการเพิ่มปริมาณอาหาร ต้องค่อยๆ เพิ่มปริมาณทีละน้อง เพียงเท่านี้ ทางเดินอาหารของน้องจะค่อยๆ ปรับตัวได้เองนะครับ
- ความเครียด ความเครียดเป็นสาเหตุของอาการท้องเสียอีกอย่าง ที่พบได้บ่อยมากๆ โดยเฉพาะเวลาเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม หรือมีสาเหตุทำให้ตื่นกลัว ตกใจมากๆ เช่น หลังพาน้องไปหาหมอ,ส่งน้องเข้าโรงเรียน เป็นต้น ท้องเสียแบบนี้ มักไม่รุนแรง และสามารถหายเองได้เมื่อ สุนัขหายเครียด หรือสาเหตุหมดไป แต่ต้องอย่าลืมให้น้องมีน้ำสะอาดไว้กิน และได้พักผ่อนสบายๆอย่างเพียงพอนะครับ
- การทำวัคซีน ถ้าสุนัขมีอาการ ท้องเสียหรือ อาเจียนหลังพึ่งกลับจากไปทำวัคซีน มีโอกาสจะเกิดจากการแพ้วัคซีนได้ครับ ซึ่งหากพบการแพ้วัคซีนลักษณะนี้ จะต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์ทันที แต่สำหรับทางที่ดีที่สุด หลังทำวัคซีนควรสังเกตุอาการน้องหลังทำวัคซีนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ถ้ามีอาการแปลกๆ รีบพาไปพบคุณหมอทันที
อาการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อในลูกสุนัข
ถ้าลูกสุนัขมีอาการท้องเสียต่อเนื่อง หรือลักษณะของอุจจาระของน้องดูแปลกไป เช่น เหลวเป็นน้ำ,มีมูก หรือมีเลือดปน เจ้าของควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที โดยอาการข้างต้นนี้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจรุนแรงถึงชีวิตลูกสุนัขได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีนะครับ
- พยาธิและปรสิตอื่นๆ
พยาธิตัวกลม (Round worm) เป็นพยาธิที่พบได้บ่อย โดยลูกสุนัขมีโอกาสติดจากแม่ได้ ขณะที่พยาธิชนิดอื่นๆ เช่น ตัวตืด (Tape worm) ก็อาจพบได้เช่นกัน โดยการตรวจพยาธินั้น คุณหมอจะใช้การตรวจหาไข่พยาธิจากอุจจาระ ถ้าลูกสนัขป่วยเป็นโรคพยาธิในลำไส้รุนแรงอาจมีอาการ ทั้งอาเจียน และท้องเสียร่วมกันได้ ปรสิตอีกกลุ่มที่บ่อย และก่อให้เกิดการท้องเสียได้ คือกลุ่ม โปรโตซัว เช่น Giadia หรือ Coccidia ซึ่งอาจทำให้ลูก สุนัขมีอาการถ่ายเหลว,อุจจาระมีกลิ่นเหม็นคาว,มีมูก หรือมูกเลือดปน,สัตว์มีอาการขาดน้ำ หรือไม่อยากอาหารได้
- เชื้อแบททีเรีย
เชื้อแบคทีเรีย พบได้ปกติในทางเดินอาหารของสัตว์ หลายครั้งปัญหามักเกิดจากการกินเอาอาหาร น้ำ ที่ปนเชื้อ แบคทีเรียชนิดอื่นๆ เข้าไป และไปเพิ่มจำนวนมากขึ้น แบคทีเรียกเหล่านี้สร้าง Endotoxin ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการป่วยได้ ขณะเดียวกันแบคทีเรีย ก็มักจะเป็นตัวซ้ำเติมตามจากปัญหาการติดเชื้ออื่นๆ ได้ เช่น เป็น Parvo virus และร่างกายอ่อนแอลง จนเกิดการเจริญของเชื้อแบคทีเรียบางชนิดในสำไส้ มากจนสามารถก่อนโรคได้
- เชื้อไวรัส
เชื้อไวรัส พาร์โว (Parvo virus) และ โคโรนา (Corona virus) เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดภาวะลำไส้อักเสบที่สำคัญในลูกสุนัข โดย พาร์โวไวรัส อาจทำให้ มีอาการอาเจียน ,มีไข้,ท้องเสียรุนแรง ขณะที่ โคโรนาไวรัส ทำให้ท้องเสียได้เช่นกัน แต่มักมีอาการที่เบากว่า ปัจจุบันยังไม่มียา หรือการรักษาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับเชื้อไวรัสทั้งสองชนิดนี้ สิ่งที่คุณหมอทำได้ในการรักษาคือ การให้การรักษาตามอาการ โดยเฉพาะการชดเชยอาการขาดน้ำ และคุมการติดเชื้อแทรกซ้อน หรือกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน เชื้อไวรัสอีกชนิดที่ทำให้มีเกิดการท้องเสียได้ คือ เชื้อไวรัสไข้หัดสุนัข (Canine distemper virus) ซึ่งจะทำให้เกิดอาการในหลายระบบร่วมกัน เช่น ไอ,มีน้ำมูก,มีไข้ อาเจียน ท้องเสียได้ จากการติดเชื้ออื่นๆ แทรกซ้อน จะพบได้มาก ในสุนัขที่ยังทำวัคซีนไม่ครบ และมักจะพบอาการรุนแรงในสุนัขอายุน้อยกว่า 4 เดือน ดังนั้นหากสุนัขอายุครบ 2 เดือนเต็ม ให้เจ้าของพาไปทำวัคซีนตามกำหนด และหลีกเลี่ยงการไปเล่นกับสุนัขโตกว่า จนกว่าวัคซีนจะครบนะครับ