10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการตั้งท้องในสุนัข (ตอนที่ 5 : สุนัขตั้งท้องสามารถฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ป้องกันพยาธิหัวใจได้มั๊ย)

10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการตั้งท้องในสุนัข ถ้าอยากให้สุนัขตั้งท้องควรเตรียมตัวแม่สุนัขอย่างไร สุนัขตั้งท้องนานกี่วัน ตั้งท้องแล้วจะต้องให้อาหารอะไร สุนัขตั้งท้องอาบน้ำ และออกกำลังกายได้มั๊ย สุนัขตั้งท้องสามารถฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ป้องกันพยาธิหัวใจได้มั๊ย

10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการตั้งท้องในสุนัข (ตอนที่ 5 : สุนัขตั้งท้องสามารถฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ป้องกันพยาธิหัวใจได้มั๊ย)

10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการตั้งท้องในสุนัข

  1. ถ้าอยากให้สุนัขตั้งท้องควรเตรียมตัวแม่สุนัขอย่างไร
  2. สุนัขตั้งท้องนานกี่วัน
  3. ตั้งท้องแล้วจะต้องให้อาหารอะไร
  4. สุนัขตั้งท้องอาบน้ำ และออกกำลังกายได้มั๊ย
  5. สุนัขตั้งท้องสามารถฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ป้องกันพยาธิหัวใจได้มั๊ย
  6. จะรู้ได้ยังไงว่าสุนัขท้อง
  7. จะรู้ได้อย่างไรว่ามีลูกกี่ตัว
  8. จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงกำหนดคลอดเมื่อไหร่
  9. จะรู้ได้อย่างไรว่าสุนัขจะคลอดยากหรือไม่
  10. เมื่อไหร่ควรจะพาเค้ามาให้คุณหมอช่วยคลอด

        มาถึงคำถามถัดไป “สุนัขตั้งท้องสามารถฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ป้องกันพยาธิหัวใจได้มั๊ย” ขอแบ่งตอบทีละรายการดังนี้ครับ

  1. สำหรับการฉีดวัคซีนนั้น ส่วนใหญ่แล้ว มักมีอยู่ 2 เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้คุณเจ้าของมีคำถามนี้เกิดขึ้น นั่นก็คือ

เกิดครบกำหนดต้องทำวัคซีนในช่วงตั้งท้องพอดี ถ้าเกิดจากเหตุผล นี้ ต้องบอกว่า ให้พิจารณาแบบนี้ครับ

  •  ปกติแล้วหมอจะไม่แนะนำให้ทำวัคซีนช่วงตั้งท้องเลยครับ เนื่องจากวัคซีนเป็นเชื้อโรคที่ทำให้อ่อนกำลังลงด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างกันขึ้นกับชนิดของวัคซีนครับ เช่น วัคซีนเชื้อเป็น วัคซีนเชื้อตาย เป็นต้น โดยในช่วงเดือนแรกของการตั้งท้อง เป็นช่วงที่มีการแท้งได้ง่าย 
    • การทำวัคซีน เชื้อเป็น (Modified Live Vaccine) เช่นพวก วัคซีนป้องกัน ไข้หัดสุนัข (Canine Distemper)  ลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)  และตับอักเสบ (Canine Hepatitis) เป็นต้น ในช่วงนี้มักจะไม่ปลอดภัยต่อลูกในท้องได้ครับ
    • สำหรับวัคซีน เชื้อตาย เช่น วัคซีนพิษสุนัขบ้า สามารถให้ในช่วงตั้งท้องได้ โดยเฉพาะช่วงเดือนท้ายของการตั้งท้องถ้าจำเป็นจริงๆ นะครับ โดยให้ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนจะดีที่สุดครับ  
  • จากที่หมอเล่าให้ฟังนี้ ต้องบอกว่า การทำวัคซีนช่วงตั้งท้องค่อนข้างจะมีรายละเอียด และผลเสียเยอะจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่หากถึงกำหนดวัคซีนในช่วงตั้งท้องพอดี ก็ให้พิจารณาแบบนี้ครับ 
    • ถ้าเลี้ยงน้องหมาในบ้านอยู่แล้ว และไม่เคยมีประวัติ สุนัขตัวก่อนติดเชื้อไข้หัดสุนัข (Canine Distemper)  ลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)  และตับอักเสบ (Canine Hepatitis) ก็ถือว่าความเสี่ยงไม่สูงครับ แนะนำให้รอคลอดก่อน ค่อยทำวัคซีนคุณแม่จะดีกว่าเพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวเล็กในท้องนะครับ 

แต่หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง เช่น เคยมีประวัติการเลี้ยงสัตว์ติดเชื้อข้างต้น ในบ้าน หรือบริเวณที่แม่สุนัขตั้งท้องอยู่ กรณีนี้ แม่สุนัขช่วงตั้งท้องอธิบายได้อย่างนี้ครับ บ่อยครั้งแม่สุนัขได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จากเจ้าตัวเล็กในท้องแบ่งไปใช้เพื่อการเจริญเติบโต  รวมถึงความเครียดในช่วงตั้งท้องนี้ มีผลทำให้ระดับภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายลดต่ำลงได้นะครับ ดังนั้นในกรณีนี้ การให้วัคซีนอาจจำเป็น ทั้งนี้ คงต้องพิจารณาความเสี่ยง และความจำเป็น รวมถึงชนิดวัคซีนที่จะให้ อย่างเหมาะสม โดยปรึกษาสัตวแพทย์อีกทีครับ

 

Picture1 : พาแม่สุนัขไปทำวัคซีน ดีมั๊ยน้า?
Picture1 : พาแม่สุนัขไปทำวัคซีน ดีมั๊ยน้า?

 

อยากให้คุณแม่มีภูมิคุ้มกันสูงๆ เพื่อจะถ่ายทอดไปยังลูกผ่านนมน้ำเหลืองช่วงแรกของการคลอด เพื่อให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันโรค สำหรับกรณีนี้ นอกเหนือจากเหตุผลเรื่องความอันตรายไม่ปลอดภัยของวัคซีน ต่อลูกน้อยในท้อง ที่กล่าวไปแล้วในหัวข้อก่อนนี้ ยังมีเหตุที่คุณเจ้าของควรทราบอีก อธิบายได้อย่างนี้ครับ

  • วัคซีนช่วยป้องกันโรคในสุนัขได้ด้วยการกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมคุ้มกัน (Antibodies) ขึ้นมาต่อสู้กับโรค   โดยการกระตุ้นกระบวนการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน ขึ้นกับอายุ และประวัติวัคซีนก่อนหน้านี้  ภูมิคุ้มกัน (Antibodies) จากแม่นี้ จะสามารถผ่านไปยังน้ำนม และไปยังลูกได้ โดยนมชนิดที่มีภูมิคุ้มกันนี้ เรียกว่า “นมน้ำเหลือง” หรือที่เรียกว่า “Colostrum” (First milk)ซึ่งจะมีในช่วง 24 ชม.แรกหลังคลอดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ลูกสัตว์เกิดใหม่จะสามารถดูดซึม Antibodies ผ่านทางลำไส้ได้เพียงไม่กี่ชม. หลังคลอดเท่านั้น  
  • สรุปก็คือ มีเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ที่ลูกจะสร้างมาดูดซึมนมน้ำเหลืองที่มีภูมิคุ้มกันนี้ได้  และจากที่ร่างกายของแม่สุนัขต้องใช้เวลาในการสร้างภูมิคุ้มกัน การทำวัคซีนในช่วงเวลาระหว่างตั้งท้อง ภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นจึงอาจมีได้ไม่ทันช่วงเวลาที่ว่านี้นั่นเองครับ

        2. สำหรับการถ่ายพยาธิการถ่ายพยาธิในลำไส้นั้น ปกติแล้วควรทำทุกๆ 3-6 เดือน ขึ้นกับวิธีการเลี้ยง หากเลี้ยงสุนัขในที่ที่มีดินแล้วละก็ ก็ควรถ่ายพยาธิบ่อยๆ หน่อยครับ แต่ถ้าเลี้ยงบนตึก บนห้อง บนคอนโด แล้วล่ะก็ โอกาสที่จะมีพยาธิก็ลดลงไปมากครับ

 

Picture2 : พยาธิตัวกลมในลำไส้สุนัข
Picture2 : พยาธิตัวกลมในลำไส้สุนัข

 

    ปกติแล้วคุณเจ้าของมักจะไม่ค่อยได้พามาถ่ายพยาธิช่วงตั้งท้องซักเท่าไหร่อยู่แล้วครับ เว้นแต่จะพบว่า แม่สุนัขถ่ายออกมามีพยาธิปน เจอแบบนี้ มาหาหมอแน่ๆ  ช่วงตั้งท้องเป็นช่วงที่แม่สุนัขต้องใช้พลังงานเยอะจากที่ลูกแบ่งไปใช้ในการเจริญเติบโต และพยาธิสามารถผ่านไปยังลูกได้ทางรก และทางน้ำนมจากแม่สุนัขที่มีพยาธิ ดังนั้น การมีพยาธิขณะตั้งท้องไม่เป็นผลดีต่อทั้งแม่ และลูกน้อยเลย พยาธิที่มักจะพบในแม่สุนัขท้องก็ คือ พยาธิตัวกลม (Roundworms) และพยาธิตัวตืด (Tapeworms)

        การถ่ายพยาธิในแม่สุนัขนั้นสามารถทำได้ด้วยยาบางชนิดเท่านั้น ยาส่วนใหญ่แล้วจะมีผลข้างเคียง และส่งผลต่อลูกน้อย ดังนั้น หากมีปัญหาพยาธิระหว่างการตั้งท้อง ให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อแนะนำการให้ยาที่ปลอดภัยต่อทั้งแม่ และลูกนะครับ และเมื่อคลอดลูกออกมาแล้ว การถ่ายพยาธิในลูกน้อย ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันครับ สามารถทำได้ในลูกสุนัขอายุตั้งแต่ 3-4 สัปดาห์ โดยทำทุกๆ 3 สัปดาห์ จนถึงอายุ 3-4 เดือน

        3. สำหรับการป้องกันพยาธิหัวใจ นั้นหากคุณเจ้าของ เดิมทีใช้เป็นวิธีการฉีดทุกๆ 1-2 เดือนแล้ว วิธีนี้อันตรายมากนะครับ แต่ถ้าใช้เป็นวิธีการกิน หรือหยอดยา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีในท้องตลอดหลายตัวที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถใช้ได้ทุก 1 เดือน ตามปกติ (ให้อ่านดูที่ข้างฉลากว่ายาตัวนั้นสามารถใช้ได้ในสุนัขตั้งท้องมั๊ยก่อนให้นะครับ)

 

 

สรุป  ก็คือ การทำวัคซีน และถ่ายพยาธิ ในช่วงตั้งท้อง ค่อนข้างอันตราย แต่ก็สามารถทำได้หากจำเป็น เช่น มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ควรจะต้องปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนดีที่สุดครับ      ส่วนตัวแล้ว หมออยากแนะนำดังนี้ครับ  แนะนำให้กระตุ้นวัคซีน และถ่ายพยาธิให้เรียบร้อย ก่อนพาไปผสม ซัก 1-2 สัปดาห์ดีที่สุดครับ  ส่วนการป้องกันพยาธิหัวใจ ให้หลีกเลี่ยงการป้องกันด้วยวิธีพาไปฉีดยานะครับ หมอแนะนำให้ใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยตามท้องตลาดจะดีกว่า ซึ่งสามารถทำได้ตามปกติ คือ ทุกๆ 1 เดือนครับ ^^

For you

Search

Ramintra (24 Hours)

Krungthep Kreetha (08.00 - 22.00)