10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการตั้งท้องในสุนัข
- ถ้าอยากให้สุนัขตั้งท้องควรเตรียมตัวแม่สุนัขอย่างไร
- สุนัขตั้งท้องนานกี่วัน
- ตั้งท้องแล้วจะต้องให้อาหารอะไร
- สุนัขตั้งท้องอาบน้ำ และออกกำลังกายได้มั๊ย
- สุนัขตั้งท้องสามารถฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ป้องกันพยาธิหัวใจได้มั๊ย
- จะรู้ได้ยังไงว่าสุนัขท้อง
- จะรู้ได้อย่างไรว่ามีลูกกี่ตัว
- จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงกำหนดคลอดเมื่อไหร่
- จะรู้ได้อย่างไรว่าสุนัขจะคลอดยากหรือไม่
- เมื่อไหร่ควรจะพาเค้ามาให้คุณหมอช่วยคลอด
อีกหนึ่งคำถามที่ถ้าหากคุณมีว่าที่แม่สุนัขอยู่ในบ้าน จะต้องไม่พลาดถามคำถามนี้กับคุณหมอเลยว่า “จะรู้ได้ยังไงว่าสุนัขตั้งท้องคะ”สำหรับวันนี้ หมอจะเล่ารายละเอียดในส่วนนี้ให้ฟังนะครับ
ก่อนอื่นเลย คุณหมอจะต้องถามก่อนว่า ทราบวันผสมที่แน่ชัดรึเปล่าครับ? เพราะข้อมูลส่วนนี้ สามารถนำมาใช้ประเมินอายุการตั้งท้องได้ (หากมีการตั้งท้องจริง) และใช้อายุการตั้งท้องเป็นตัวเลือกวิธีการตรวจต่อไปได้ครับ
วิธีการตรวจการตั้งท้อง ทำได้หลายวิธี หรือบางวิธีใช้ประกอบกันครับ ดังนี้
- จากประวัติของแม่สุนัขของเรา ข้อมูลส่วนนี้ มักใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญร่วมกับข้อมูลการตรวจอื่นๆ โดยหากคุณเจ้าของพบเห็นสุนัขของเราเป็นสัด หรือมีเลือดจากอวัยวะเพศ (Bloody Vaginal Discharge) มาแล้วซักสัปดาห์เศษ และเห็นว่ามีการถูกผสมจากน้องสุนัขตัวผู้จริง ข้อมูลตรงนี้ จะมีส่วนสำคัญในเบื้องต้น ที่ทำให้สงสัยได้ว่าอาจจะตั้งท้อง นอกจากนี้ ประวัติจากคุณเจ้าของที่พบว่า มีการกินอาหารมากขึ้น และมีขนาดท้องที่ใหญ่ กางขึ้น (ท้องป่องแต่ตัวไม่ได้อ้วนขึ้น) ก็เป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่จะนำไปใช้ประกอบการวินิจฉัยต่อไปครับ
การคลำท้อง เป็นอีก 1 วิธีที่ใช้ประกอบการวินิจฉัยครับ โดยหากสุนัขตัวนี้ มาตรวจกับคุณหมอท่านเดิมเป็นประจำ ได้มีการคลำท้องตั้งแต่ ก่อนผสม จนหลังผสมก็แล้ว คุณหมอจะพอทราบความแตกต่างได้ทันที หากมีมดลูกขยายใหญ่ขึ้น หรืออาจคลำพบตัวลูกสุนัขได้ แต่ก็มีข้อจำกัดในหลายๆ ด้านเช่น สุนัขอ้วน หรือเพิ่งกินอาหารไป การคลำก็จะยากหน่อย และอาจเข้าใจผิดได้ การคลำท้องเพียงอย่างเดียวไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดสำหรับคำถามนี้ได้ครับ

การอัลตราซาวน์ (Ultrasound) เป็นวิธีที่ใช้บอกถึงการตั้งท้องได้เป็นอย่างดีครับ แต่อาจมีราคาค่าบริการค่อนข้างสูงซักหน่อย การอัลตราซาวน์เป็นการใช้คลื่นเสียงส่งเข้าไปในท้องสัตว์ผ่านผนังหน้าท้อง และคลื่นเสียงก็จะไปสะท้อนกลับอวัยะต่างๆ กลับมายังส่วนรับสัญญาณเสียงเพื่อแปรงข้อมูลออกมาเป็นภาพ ภาพอัลตราซาวน์จะต้องอาศัยเทคนิค และความสามารถพิเศษของคุณหมอในการอ่านผล โดยหากสุนัขมีการตั้งท้อง ในแต่ละระยะของการตั้งท้องก็จะเห็นภาพที่แต่งต่างกัน การอัลตราซาวน์ สามารถทำได้เมื่อมีการฝังตัวของตัวอ่อนบนมดลูกแล้ว โดยจะเกิดขึ้นตั้งแต่อายุของการตั้งท้อง 21 วันขึ้นไปเท่านั้น (นับจากวันปฏิสนธิ ไม่ใช่วันผสมนะครับ) ดังนั้นข้อมูลของการเป็นสัด และวันผสมจึงมีส่วนสำคัญในการกะประมาณว่า น่าจะมีการปฏิสนธิเกิดขึ้นวันไหน และคุณหมอจะนับวันจากวันนั้นมาอย่างน้อย 21 วัน หากพบว่า ยังไม่ถึง 21 วันการตรวจการตั้งท้องจะยังไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีนี้ แต่หากเกิน 21 วันไปแล้ว ก็จะพบว่ามีหัวใจลูกเต้นอยู่ได้ครับ และหากมาตรวจด้วยอัลตราซาวน์ในช่วงเดือนที่ 2 ของการตั้งท้องแล้ว ก็จะสามารถเห็นลูกสุนัขเป็นรูปเป็นร่างได้ชัดเจนขึ้นอีกครับ แต่เนื่องจากการอัลตราซาวน์มีค่าบริการที่ค่อนข้างสูง สำหรับการตอบคำถามนี้ หากเจ้าของรอได้ และไม่ได้ต้องการรีบรู้ ก็อาจรอจนตรวจด้วยวิธี X-ray ได้ครับ

การ X-ray เป็นอีกหนึ่งวิธีในการวินิจฉัยการตั้งท้องครับได้ครับ และราคาก็ไม่แพงครับ แต่จะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อมีอายุการตั้งท้องตั้งแต่ 45 วันขึ้นไปนะครับ เนื่องจากช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่เริ่มถ่าย X-ray แล้วเห็นเป็นโครงกระดูกของลูกในท้องได้ครับ ถ่ายถ่ายก่อน 45 วัน อาจเห็นเป็นแค่มดลูกขยายใหญ่ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าตั้งท้องครับ การที่มดลูกขยายใหญ่ เพียงอย่างเดียว อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้ เช่น ท้องเทียม มดลูกอักเสบ เป็นต้น

จากที่หมอเล่าให้ฟังมาแล้วข้างต้น เราจะมีวิธีตรวจการตั้งท้องโดย สรุป คือ
- หากทราบว่าเป็นสัด และทราบว่าถูกผสมมาเมื่อไหร่ มีประวัติว่ากินอาหารมากขึ้น ขนาดท้องใหญ่ขึ้นแล้ว สามารถตรวจท้องด้วยการคลำ ร่วมกับการอัลตราซาวน์ได้ตั้งแต่อายุ 21 วัน และหากเลย 45 วันไปแล้ว แนะนำให้ตรวจด้วย X-ray ครับ เพราะว่าราคาถูกกว่า และสามารถรู้จำนวนลูกรวมถึงขนาดตัวของลูกเมื่อเทียบกับเชิงกราน คุณหมอจะสามารถใช้ประเมินโอกาสการคลอดยากได้ด้วยครับ ^^
- หากไม่ทราบข้อมูลใดๆ เลย อันนี้เกิดขึ้นได้จาก คุณเจ้าของเลี้ยงรวมหลายๆ ตัว อาจไม่ได้ใกล้ชิดมาก จึงไม่ทราบว่าเป็นสัด และถูกผสมหรือไม่? เมื่อไหร่? ลักษณะนี้ คุณเจ้าของมักจะพามาเพราะว่าท้องมีขนาดใหญ่ขึ้นนั่นเอง การตรวจก็ทำได้ด้วยการอัลตราซาวน์ และ X-ray ซึ่งการทำทั้ง 2 วิธีนี้ อาจต้องทำมากกว่า 1 ครั้ง เช่น หากพามาก่อนช่วงที่จะอัลตราซาวน์เห็น คือ ก่อน 21 วัน หรือพามาก่อน X-ray ได้ ก็คือก่อน 45 วัน คุณหมออาจจะนัดให้มาทำซ้ำอีกทีในอีก 1-2 สัปดาห์จากการทำครั้งแรก เพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัยนั่นเอง ทั้งนี้ขึ้นกับประวัติอาการของว่าที่แม่สุนัขของเราด้วยนะครับ