อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัขและแมว (ตอนที่ 1)
อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัขและแมว (ตอนที่ 1)
การเลี้ยงสุนัขและแมวในแต่ละครอบครัวจะแตกต่างกันไป บางครอบครัวจะให้กินแต่อาหารสำเร็จรูปที่ผลิตมาเฉพาะสำหรับสุนัขและแมว (อาหารเม็ดหรืออาหารกระป๋อง) แต่บางคอบครัว ก็จะให้กินอาหารเหมือนกับเจ้าของ คือ ให้กินข้าวคลุกกับตับหรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งอาหารที่เรากินกันนั้น บางอย่างสุนัขและแมวกินได้ แต่บางอย่างถ้าให้กินเข้าไป อาจจะเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงได้ค่ะ วันนี้เราจะมาดูกันนะคะ ว่ามีอะไรบ้างที่สัตว์เลี้ยงของเรากินไม่ได้
- ช็อคโกแลต เจ้าของบางท่านติดใจในรสชาติของขนมหวานชนิดนี้มาก และคิดว่าสุนัขและแมวของเราคงจะชื่นชอบด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าให้ในปริมาณน้อย ๆ อาจยังไม่เกิดความผิดปกติ แต่ถ้าให้ในปริมาณมาก จะทำให้เกิดความเป็นพิษขึ้นมาได้ค่ะ เนื่องจากช็อกโกเลตเป็นอาหารที่ได้จากการสกัดจากเมล็ดโกโก้ ซึ่งมีสารกลุ่มเมทิลแซนทีน เมื่อเข้าสู่ร่างกายของสัตว์จะเปลี่ยนสารองค์ประกอบเป็น ทีโอโบรมีนซึ่งมีผลกระทบต่อร่างกายสัตว์อย่างมากวิธีแก้ไขเบื้องต้น คือ การทำให้อาเจียน โดย ป้อนเกลือป่น เข้าไปให้ถึงโคนลิ้นของสัตว์ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ และปิดปากสัตว์ไว้ไม่นาน สุนัขหรือแมวก็จะอาเจียนออกมา หรือใช้ Baking Soda ที่สามารถหาซื้อได้ในซุปเปอร์มาเก็ต ทั่วไป ป้อนให้สัตว์กินในขนาด 1-2 ช้อนชาก็พอค่ะ จากนั้นให้รีบพามาพบหมอ เพื่อให้การรักษาต่อไปค่ะ
ของหวานยอดนิยม "ช็อคโกแลค"
บางครั้งช็อคโกแลค อาจจะมาในรูปแบบต่างๆ ระวังให้ดีนะคะ อย่าให้เค้าแย่งหม่ำได้
- องุ่นหรือลูกเกด อาจฟังดูไม่น่าเชื่อนะคะ เพราะองุ่นก็เป็นแค่ผลไม้ธรรมดา ส่วนลูกเกดก็เป็นแค่ของทานเล่นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย แต่ถ้าหากเราให้สัตว์เลี้ยงของเรากินเข้าไปแค่เพียง 6 ลูกเท่านั้น สามารถทำให้เกิดการอาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย อ่อนแรง บางทีถึงขั้นไตวายและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งสารที่ทำให้เกิดความเป็นพิษ ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ถึงยังไงก็ควรหลีกเลี่ยงผลไม้พวกนี้ไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
องุ่นหลายๆ ล้วนแต่เป็นพิษ
ลูกเกด ถือเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดนึงที่ได้ยากองุ่นนะคะ
แม้สายตาที่เค้าจับจ้องจะอ้อนวอนแค่ไหน อย่าได้ละสายตาเชียวนะคะ อาจโดนฉกไปกินได้ ^^
- หัวหอมและกระเทียม ผักสองชนิดนี้มีประโยชน์มากมายในคน ไม่ว่าจะช่วยลดความดัน และลดคลอเลสเตอรอลในเลือดได้ แต่สำหรับสุนัขและแมว ผักสองชนิดกลับมีพิษมากมายเช่นเดียวกัน เนื่องจากในผักสองชนิดนี้มี กำมะถัน อยู่ในปริมาณมาก ซึ่งกำมะถันเป็นส่วนประกอบของสารไทโอซัลเฟต มีฤทธิ์ทำลายผนังของเม็ดเลือดแดง ทำให้มีร่างกายสัตว์มีการขนส่งออกซิเจนได้น้อย อวัยวะต่าง ๆ ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอต่อการทำงาน ทำให้มีอาการซึม อ่อนเพลีย ท้องเสีย อาเจียน เลือดจาง และอาจเกิดภาวะเลือดไหลไม่หยุดตามมาได้ด้วยค่ะ
หัวหอม และกระเทียม อีกหนึ่งตัวการสำคัญ
บางครั้งหัวหอมอาจจะแปลงตัวมาในรูปแบบที่น่ากินจนเราลืมไปได้ ให้หม่ำไม่ได้น้าา
- ถั่วแมคคาเดเมีย อีกหนึ่งอาหารทานเล่นในบ้านที่เป็นของโปรดของใครหลาย ๆ คน กินไปดูทีวีไป บางทีเจ้าตัวยุ่งในบ้านอาจมาเกาะขอบโซฟาขอกินด้วย พอเราเห็นสายตาอันอ้อนวอนก็อดใจไม่ไหว ให้กินไปหลายเม็ด หลังจากนั้นอาจจะพบอาการผิดปกติตามมาได้ เช่น ตัวร้อน มีไข้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว ปวดท้อง ถ้าให้กินไปปริมาณมากอาจมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง ขาหลังเป็นอัมพาต ซึ่งถ้าพบอาการดังกล่าวให้เจ้าของพาน้องส่งโรงพยาบาลทันทีนะคะ
ถั่วมัคคาดาเมีย ถั่วตัวร้าย ;P
แม้จะน่าหม่ำเพียงไหน ก็ต้องอดใจไว้ให้อยู่น้าา นู๋เอ๊ย!
อีกหนึ่งการปลอมตัวมาของถั่วมัคคาเมีย ที่คุณเจ้าของอาจมองข้ามไป ในคุกกี้นั่นเอง แหมอำพรางตัวซะเนียนเชียว
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พอได้รู้ว่าอาหารแสนอร่อยของเรา ทำอันตรายกับเจ้าตัวน้อยได้มากแค่ไหน ตกใจกันบ้างมั้ยเอ่ย อาหารที่เป็นอันตรายยังไม่หมดแค่นี้นะคะ ยังมีอีกหลายอย่าง อดใจรอก่อนนะคะ เดี๋ยวหมอจะมาอัพเดทความรู้นี้ให้ รอพบกันใน อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัขและแมว (ตอนที่ 2) ต่อไปค่ะ ^^
อ้อ! อีกหนึ่งสาเหตุไม่คาดฝัน ไม่ได้ให้เค้าทานนะ แต่หาหม่ำเองแบบนี้ อันตรายนะเออ ระวังด้วยนะคะ
รูปจาก : petfinder.my, justdogs.co.nz, kid-reborn.blogspot.com, foodonmydog.com, blog.lucky-dog-biscuits.com, alldog360.blogspot.com, wellnessbusiness.nu, neartownvet.wordpress.com, longbeachstuff.com,
โรงพยาบาลสัตว์โอะไดจินิ